Saturday, 9 May 2015

“ดาวแดงร่วมหัวกันส่วมแอกแดกทรัพยากรของคนไทย”

ขบวนการอดีตพคท. และคนเดือนตุลา คือผู้อยู่เบื้องหลังการข่มขู่-กดหัวชาวบ้านให้ยอมรับการทำเหมืองโปแตช
ช่วงปี 2523 - 2548เป็นช่วงของการบุกเบิกเหมืองแร่โพแทชในประเทศไทย โดยบริษัท ไทยอะกริโก โปแตซ จำกัด ได้ทำสัญญาการสำรวจและผลิตแร่โพแทช กับกระทรวงอุตสาหกรรมโดยรัฐบาลไทยเป็นผู้ถือหุ้น 10% หลังจากนั้น บริษัท ไทยอะกริโก โปแตซ จำกัด ได้มีการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนผู้ถือหุ้นและเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท เอเซีย แปซิฟิค โปแตช คอร์ปอเรชั่น จำกัด (เอพีพีซี) บริษัทฯในยุคที่ดำเนินการโดยชาวต่างชาติได้รับอนุมัติอาชญาบัตรพิเศษเพื่อ สำรวจแร่ และได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายในขณะนั้น ทั้งการรังวัด ขึ้นรูปแผนที่และปักหมุด รวมทั้งผ่านร่างจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) แต่ก็ได้มีข้อเรียกร้อง จากกลุ่มผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการให้มีการพิจารณารายงานอีไอเอใหม่ ทำให้เรื่องต้องยืดเยื้อออกไป จนท้ายที่สุดผู้ถือหุ้นเดิมจึงตัดสินใจขายหุ้นให้แก่บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนท์ จำกัด(มหาชน) ง่ายๆก็คือให้ต่างชาติเข้ามาสำรวจพบแล้วทำแผนที่ปักหมุด แล้วก็เอาบ.นอมินีเข้ามาถือเพื่อที่จะทำเอง อิตาเลียนไทยเป็นของตระกูล”กรรณสูตร” นามสกุลนี้ไม่ต้องบอกว่ารับใช้ใครอยู่ อยู่ในกลุ่มทุนผูกขาดสวามิภักดิ์รายเก่าที่ทำงานให้ชนชั้นสูงไทยนั่นเอง
หลังจากอิตาเลี่ยนไทยแดกงบในรัฐบาลยิ่งลักษณ์จนพุงกาง มายุคเผด็จการทหารหมามีอำนาจ ทุนผูกขาดสวามิภักดิ์รายเก่าอย่างอิตาเลียนไทยมีงานเข้ามาเยอะเหลือเกินว่า กันว่ายาวไปไม่น้อยกว่า 7ปี ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ และถนนมอเตอร์เวย์ รวมไปถึง พ.ร.บ บริหารจัดการน้ำมูลค่า 3.5 แสนล้านบาท ขยายกิจการรับเหมาก่อสร้างลงทุนโครงการท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมทวาย ในประเทศพม่า อิตาเลี่ยนไทยจึงต้องการที่จะนำเงินที่จมอยู่กับสัมปทานเหมืองโปแตชที่ได้ แต่ไม่ได้ขุดสักทีนี้ไปลงทุนงานก่อสร้างที่ได้เป็นจำนวนมาก ขณะนี้กำลังเจรจาที่จะขายหุ้นจากเงินที่ลงทุนไปแล้ว 3,000 ล้านบาทเป็น 30,000ล้านบาท เรียกว่าเอาเป็นสิบเท่าจากที่ลงทุนกันเลยทีเดียวและเชื่อว่าผู้ที่จะมาซื้อ ต่อก็น่าที่จะสนใจเพราะมูลค่าของแร่โปแตชที่พบนั้น มันมีมูลค่ามากมายมหาศาลนัก แต่ติดที่ประชาชนในพื้นที่เข้าต่อสู้และขัดขวางมาโดยตลอด
หัวหน้าส่วนราชการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ล้วนเข้ามาหลอกลวพี่น้องประชาชนอุดรโดยตลอด เพื่อให้ยอมรับการปล้นทรัพย์ของประชาชนในการทำเหมืองของนายทุนผูกขาด แต่บุคคลที่เป็นหน้าม้า เป็นหนังหน้าไฟต่อสู้กับประชาชนในพื้นที่มาโดยตลอดนั้นตั้งแต่ช่วยบ.เอพีพี ซีสำรวจ กลับเป็นอดีตสหายพคท.สายพรรคเพื่อไทย และมีบทบาทมากทั้งสามคนโดยใช้วิธีการทำมวลชนแบบที่เคยใช้กับพรรคคอมมิวนิสต์ มาต่อสู้กับประชาชนผู้สูญเสียผลประโยชน์ แทนที่จะเอาอุดมการณ์ของพคท.มาต่อสู้เพื่อเคียงข้างประชาชน พคท.ในยุคนี้จึงเป็นอดีตพคท.ที่เสียชาติเกิด-ชิงหมาเกิด เอาสัญลักษณ์ของพคท.มาแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน
ทั้งสามคนประกอบไปด้วย
1. นางประพิมพรรณ สุดชูเกียรติ คนเดือนตุลาเป็นกรรมการกลางศูนย์กลางนิสิตนักศึกษา รุ่นเดียวกับสุธรรม แสงประทุน,จาตุรนต์ ฉายแสง,ธงชัย วนิชกุล ฯลฯ เข้าป่าไปร่วมกับพคท.
2. นายวรนาถ สุพันธนันท์ เป็นรุ่นพี่ของประพิมพรรณ เคยเข้าป่าร่วมกับพคท.ที่ภาคใต้
3. นายทวี เรืองปราชญ์ เป็นมุสลิมภาคกลาง คนเดือนตุลา เป็นเครือข่ายของศูนย์กลางนิสิตนักศึกษา มาจากสายอาชีวะ และเคยเข้าป่าร่วมงานกับพคท.
ทั้งสามคนนี้เป็นอดีตพคท. มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับสหายจาตุรนต์ ฉายแสง ,สหายภูมิธรรม เวชยชัย ,สหายพิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ ,สหายเกรียงไกร เลาหไฟโรจน์ ,สหายมิ๊ง พรหมินทร์ เลิศสุริยะเดช ,สหายสมบูรณ์ สิมะแสงยากร(เจ้าของเรือขนน้ำมันในอ่าวไทยให้เชฟร่อน นอมินีของภูมิธรรมและจาตุรนต์) และสหายพคท.อีกหลายคนที่ทำงานรับใช้พรรคเพื่อไทย โดยสหายจาตุรนต์และสหายภูมิธรรมหวังว่า นอกจากจะได้งานเคลียร์กับมวลชนให้กับนายทุนที่ได้รับสัมปทานแล้วยังจะได้ผล ประโยชน์ต่อเนื่อง อันที่จะเกิดจากการทำเหมืองด้วยเช่น การขนส่ง การแปรรูป โดยเฉพาะการขนส่งนั้น กลุ่มคนเดือนตุลาและพคท.สายเพื่อไทยอย่างภูมิธรรม และสหายสมบูรณ์ มีกองเรือขนส่งขนาดใหญ่ที่ได้มาหลังการแปรรูปบริษัทเดินเรือไทยในปี2548 ในยุคที่สหายภูมิธรรมเป็นรมช.คมนาคมนั่นเอง จึงได้วางสายของคนของตัวเองเข้ามากดหัวประชาชนชาวอุดรตั้งแต่เริ่มต้น มีการส่งรายชื่อแกนนำที่ต่อต้านให้หน่วยงานต่างๆเพื่อเข้ามา ข่มขู่ คุกคาม ทำร้าย และสุนัขรับใช้พคท.ทั้งสามก็ประสานกับส่วนราชการในจังหวัด โดยอ้างอำนาจของรัฐบาล(ในสมัยยิ่งลักษณ์) หรืออ้างอำนาจศักดินาเหนือรัฐ เพื่อให้คนอุดรเกรงกลัวไม่กล้าต่อต้าน "คนเสื้อแดงจึงไม่เคยพูดถึงความมั่งคั่งร่ำรวยของตัวเองที่ถูกปล้นไป เพราะสหายคนเดือนตุลาในพรรคเพื่อไทย ท่อน้ำเลี้ยงใหญ่ให้กลุ่มต่างๆนั่นเอง"
คนเดือนตุลา2519 และอดีตพคท.สายเพื่อไทย นอกจากจะเข้าไปมีส่วนร่วมกับศักดินาในการปล้นชิงประชาชนในเรื่องพลังงานแล้ว ยังสาระเลวกระทืบประชาชนเพื่อนายทุนทำเหมืองโปแตชที่อุดรและอีกหลายที่อีก ด้วย ก็ไม่รู้ว่าในอดีตพคท.ได้สอนอะไรให้คนรุ่นนั้นบ้าง ออกจากป่ามาจึงได้เหี้ย-ทรยศได้แม้แต่อุดมการณ์เพื่อชนชั้นประชาชน และหันไปกราบส้นตีนศักดินา หรือไม่ก็เลียส้นตีนนายทุนกันถ้วนหน้า คิดว่าน่าจะยังมีอดีตพคท.ที่ยังมีสำนึกไม่อายประชาชนก็อายหมามันบ้าง โปรดเห็นหัวประชาชนมากกว่านายทุน เถิด

จากเพจ/สมชัย กีรวัฒณ์ รักประชาชน













No comments:

Post a Comment

Note: only a member of this blog may post a comment.