Sunday, 7 June 2015

ชนชั้นกรรมาชีพยุคใหม่

(( บรรยายภาพ)) ชนชั้นกรรมาชีพยุคใหม่
ในอดีตมีชนชั้นกรรมาชีพยุคเก่า
กล่าวคือ เมื่อชนชั้นนายทุนได้เริ่มต้นกิจกรรม "ว่าจ้าง" "หัตถกร" "ช่างฝีมือ" และ "เกษตรกร" ให้ไปเป็นลูกจ้างของเขา ด้วย นายทุนมี เจตนาฮุบเอาส่วนเกินไปเป็น"กำไรของตน" หาใช่ การมุ่งช่วยเหลือเกื้อกูล หรือร่วม"หุ้นส่วนประกอบการงานที่ลงมือร่วมกันแบบเสมอภาคไม่--พอได้กำไรแล้ว ก็ แบ่งปันกัน ตามจริง ตามที่ร่วมกันทำมาหาได้ อย่างที่เข้าใจเดิมๆไม่"
จากนั้น นายทุนมีการสะสมกำไรที่ชิงมาได้ในรอบแรก เอามาเป็นทุนเงินตรา จ้างกรรมกรรอบใหม่
เงินกรรมกร มาจ้างกรรมกรเองรอบใหม่
กรรมกรรับจ้างเงินกรรมกร
นายทุนเอาเงิน ที่จ่าย"ค่าแรงตามมูลค่าที่สร้างขึ้นจริง" ไม่ครบ สร้างจริง (ตัวอย่างสร้างได้ พันบาท จ่าย ค่าแรง ๓๐๐ บาท ชิงมูลค่าที่สร้างได้ไป ๗๐๐ บาท)
จากนั้น ยิ่งทำผลผลิต นายทุนก็ชิงมูลค่าส่วนต่างที่เกินมาจาก"ค่าจ้าง" ก็ถูก"สะสม"ในกระเป๋านายทุน-นายทุนก็เอามาเป็น"ทุนก้อนใหม่ใหญ่กว่าเดิม" ใช้ไปบดขยี้คนแรงงาน ด้วยการ"ให้กู้ยืม-บีบคั้นซื้อที่ดิน หว่านล้อมให้รับยอมรับในกติกาขูดรีด และ นายทุนนำเงินที่ขูดรีดได้ ไปหาอำนาจซื้อเสียง ซื้อปืน จ้างนักฆ่า แล้ว ในที่สุดก็เข้าครองอำนาจการเมือง เหนืออำนาจของศักดินา(ในยุโรป ๒-๓๐๐ ปีก่อน) นายทุนก็ชนะศักดินาทางการเมืองได้เด็ดขาด
นี่คือที่มาของนายทุน ผู้สร้าง "กรรมาชีพยุคเก่า" ผู้ที่ถูกปล้นชิงทารุณจากเวลาทำงานวันละ ๑๒-๑๖ ชั่วโมง--และถูกกระทืบให้ออกจาก"ผลผลิต"ที่สร้างได้-คุกคามรุกรานไปสู่ การ"กว้านซื้อที่ดิน" และ "ฮุบเอาปัจจัยการผลิตที่เคยมีบ้างในมือลูกจ้างไปเสียสิ้น"
ต่อมาถึงปัจจุบัน- มีการผูกขาด และชิงปัจจัยการหากินมากกว่าเดิม ได้แก่ การปล้นชิงสัมปทานพลังงาน ชิงลิขสิทธิ์ ชิงที่ประการภาคบริการต่างๆ ที่จอดรถ สนามบิน แหล่งท่องเที่ยว เส้นทางคนนาคน ไฟฟ้า ธนาคาร ตลาดหุ้น ฯลฯ
ชิงจากต้นน้ำ ถึงปลายน้ำ จากผลผลิต ตลาด ธนาคาร สิทธิสัมปทาน จนถึง"ภาษี"
กรรมาชีพยุคใหม่จึงไปไหนไม่รอด ตายห่า โหง ยิ่งกว่าเขียดถูกย่างไฟ
บางคนไม่ต้องถูกทหารฆ่า หรือไม่ต้องถูกนายทุนฆ่าเองโดยตรง -นายทุนก็บีบคั้นให้กรรมาชีพยุคใหม่ ฆ่าตัวตายได้เอง หลายวิธี โดยไม่มีใครมองเห็นฆาตกรทุนผูกขาดได้เลย
กรรมาชีพรุ่นใหม่ตายห่า ตายโหงแบบผ่อนส่ง ตายห่า ตายโหงแบบฉับพลันอย่างมากมาย
อาจมีกรรมาชีพยุคใหม่ส่วนน้อย ที่มีปัจจัยหากินขาดๆ วิ่นๆอยู่จำนวนหนึ่ง-เช่น มีที่ดิน แต่ไม่เงินทุน-มีเงินทุนแต่ไม่มีตลาด--
ต่างคนก็ตกเป็นทาสทางชนชั้นทุนผูกขาด ภายใต้ม่านบังตาว่า--มีมีเสรีภาพที่จะอดตาย มีเสรีภาพที่จะวาดมโนความหวัง มีเสรีภาพที่จะดิ้นตาย มีเสรีภาพที่จะทุกข์ทรมานได้ อย่างเสมอภาค เสรีภาพ ภราดรภาพ อย่างเต็มพิกัด
บางคนเป็นกรรมาชีพที่อาจดูหรูหราบางอาชีพ เป็นกรรมาชีพที่อาจดูมั่งคั่ง มีโอกาสมามายในบางอาชีพ
แต่ภาพใหญ่ หรือภาพรวมคือ "กรรมาชีพ ผู้สิ้นอนาคตในสังคมทุนผูกขาดนั่นเอง"

จากเพจ/ 
ทุนผูกขาดศักดินาเหนือรัฐ ที่มีอิทธิพลอเมริกาครอบงำ 7.6.2015

 

No comments:

Post a Comment

Note: only a member of this blog may post a comment.